เชื่อว่าแฟนคลับบาร์บี้หลายคนอาจจะมีแอนิเมชันจากจักรวาลนี้เป็นเรื่องโปรดในดวงใจที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังวนดูซ้ำ จนจำบท จำจริตของตัวละครได้ ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่ถูกพูดถึงในทุกยุคทุกสมัย
คงหนีไม่พ้น ‘Barbie in the 12 Dancing Princesses - บาร์บี้ ใน 12 เจ้าหญิงเริงระบำ’ จากปี 2006 อย่างแน่นอน
.
แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่า แท้จริงแล้วเรื่องราวของเจ้าหญิงทั้ง 12 องค์นี้ มีที่มาจากนิทานของ ‘สองพี่น้องตระกูลกริมม์’ ซึ่งเป็นเวอร์ชันต้นฉบับของบาร์บี้ในอีกมุมมองหนึ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้
.
ก่อนอื่นเราต้องขอเกริ่นเนื้อเรื่องในเวอร์ชันของบาร์บี้เสียก่อน แน่นอนว่าบาร์บี้ได้นำเค้าโครงเรื่องหลักมาจากนิทานของพี่น้องตระกูลกริมม์ที่เล่าถึงเรื่องราวกษัตริย์พระองค์หนึ่งมีธิดาทั้งหมด 12 พระองค์ โดยลูก ๆ ทั้งหมดของพระราชาจะบรรทมในห้องเดียวกัน และในทุก ๆ เช้าจะพบว่ารองเท้าของพวกเธอนั้นสึกหรอราวกับว่าได้ออกไปเต้นรำตลอดทั้งคืน ไม่มีใครสามารถหาคำตอบได้ว่าเจ้าหญิงออกไปจากห้องนอนได้อย่างไร และพวกเธอไปเต้นรำที่ไหนในยามค่ำคืน
.
จากเนื้อเรื่องที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้นเองเป็นเนื้อเรื่องที่เวอร์ชันบาร์บี้และเวอร์ชันนิทานพี่น้องตระกูลกริมม์มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่เนื้อเรื่องโดยส่วนใหญ่ของทั้ง 2 เวอร์ชันยังมีอีกหลายจุดที่แตกต่างกันมาก
.
โดยเรื่องราวของทั้งหมดในเวอร์ชันของสองพี่น้องตระกูลกริมม์นั้นพระราชาสงสัยเองว่าลูก ๆ ของพระองค์นั้นได้ออกไปเต้นรำตอนกลางคืนได้อย่างไรโดยที่ไม่มีใครพบเห็นพวกเธอ ดังนั้นพระราชาจึงประกาศให้ตามหาผู้ที่สามารถหาคำตอบของความลับนี้ได้และจะมอบรางวัลให้แก่ผู้ที่สามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จ และเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่านิทานของพี่น้องตระกูลกริมม์นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นนิทานที่ทั้ง “โหด” และ “ดาร์ก” ซึ่งนั่นหากผู้ที่ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จก็จะถูกตัดสินประหารชีวิตเลยทีเดียว แม้ว่าจะเป็นเจ้าชายจากต่างเมืองมาทำภารกิจนี้ แต่ถ้าหากไม่สามารถหาคำตอบให้แก่พระราชาได้ก็มีโทษประหารชีวิตเช่นเดียวกัน…
.
นอกจากนี้เจ้าหญิงในเวอร์ชันของพี่น้องตระกูลกริมม์ก็มีความโหดไม่แพ้กัน โดยพวกเธอจะนำไวน์มาให้ผู้ที่ปฏิบัติภารกิจทุกคนดื่ม เมื่อดื่มไวน์ไปแล้วก็จะทำให้หลับสนิทจนถึงเช้าเพื่อจะได้ออกไปเต้นรำได้อย่างสบายใจ แม้ว่าผู้กล้าเหล่านั้นจะถูกประหารก็ตามแต่ เหล่าบรรดาเจ้าหญิงทั้งหลายก็ไม่ได้สนใจในสิ่งนั้นเท่าไหร่นัก พวกเธอสนใจแค่การไปเต้นรำในสถานที่แสนวิเศษซึ่งไม่มีใครสามารถหาเจอได้
.
อีกจุดสำคัญของทั้ง 2 เวอร์ชันที่แตกต่างกันเลย คือ ในเวอรชันของบาร์บี้จะปรากฏตัวละครอย่าง ‘โรวีนา’ ซึ่งตัวร้ายของเรื่องที่หวังจะครอบครองสมบัติของกษัตริย์และเป็นคนที่กักขังเหล่าเจ้าหญิงไว้ในดินแดนวิเศษ นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงเส้นเรื่องความรักระหว่าง ‘เจเนวีฟ’ และ ‘เดเร็ค’ ช่างทำรองเท้า ในเวอร์ชันของบาร์บี้นั้นบุคคลที่สามารถไปพบเจอเจ้าหญิงทั้ง 12 ไปเต้นรำในสถานที่วิเศษได้มีเพียง ‘โรวีนา’ และ ‘เดเร็ค’ แต่ส่วนเวอรชันของพี่น้องตระกูลกริมม์นั้นแตกต่างออกไป โดยผู้ที่สามารถค้นพบว่าเหล่าบรรดาเจ้าหญิงนั้นแอบไปเต้นรำที่ไหนมีเพียงคนเดียว คือ ‘ทหารเก่า’ ที่รับอาสาปฏิบัติภารกิจจากพระราชาให้ออกไปตามหาเจ้าหญิง
.
ในส่วนที่แตกต่างอีกจุดหนึ่งเลย คือ ทหารเก่าผู้นั้นได้รับคำแนะนำจากหญิงชราคนหนึ่งที่เขาได้พบเจอในป่าว่าห้ามดื่มไวน์ที่เจ้าหญิงให้และได้มอบผ้าคลุมล่องหนแก่เขา สิ่งนี้เองทำให้ทหารคนนั้นไม่หลงกลในเล่ห์เหลี่ยมและสามารถติดตามไปยังสถานที่เต้นรำได้โดยที่ไม่ได้เห็นตัวของทหารคนนั้น นอกจากนี้เขายังเก็บหลักฐานอย่างกิ่งไม้สามกิ่งและถ้วยทองคําเพื่อยืนยันกับพระราชา นอกจากนี้เขายังพบว่าเจ้าหญิงทั้ง 12 องค์แอบไปเต้นรำกับเจ้าชายอีก 12 องค์ที่ปราสาทกลางทะเลสาบอีกด้วย
.
และในตอนจบของเรื่องก็มีความแตกต่างกัน โดยในเวอร์ชันบาร์บี้นั้นเจเนวีฟและเดเร็คสามารถช่วยเหลือกษัตริย์ที่ถูกโรวีนาวางยาพิษเอาไว้ได้ และสามารถขับไล่เธอและพรรคพวกออกจากวังได้สำเร็จ สุดท้ายเจเนวีฟและเดเร็คก็ได้แต่งงานกันอย่างมีความสุข แต่ในส่วนของเวอร์ชันพี่น้องตระกูลกริมม์นั้นทหารได้บอกความจริงแก่พระราชากับสิ่งที่เขาได้ไปพบเจอมาและได้แสดงหลักฐานยืนยันว่าเขาได้ติดตามพวกเธอไปจริง
.
หลังจากพระราชาได้ทราบเรื่องจากลูกสาวทั้ง 12 คนของเขา จึงยกลูกสาวให้แก่เขา 1 คน และมอบให้ทหารคนนั้นเป็นทายาทสืบต่อบัลลังก์ต่อไป เพื่อตอบแทนการนำความจริงมาไขความกระจ่างแก่ตน
.
หากเปรียบเทียบเนื้อเรื่องของเวอร์ชันบาร์บี้และพี่น้องตระกูลกริมม์จะเห็นได้ชัดเลยว่ามีเค้าโครงเรื่องหลักลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่เนื้อเรื่องส่วนใหญ่ยังแตกต่างกันอยู่มาก ในแอนิเมชันบาร์บี้เนื้อเรื่องจะจบแบบ ‘Happy Ending’ ท้ายที่สุดพระนางของเรื่องก็จะฝ่าฟันอุปสรรคและได้ครองคู่กันอย่างมีความสุข แต่ในนิทานของพี่น้องตระกูลกริมม์มีความแตกต่างออกไป ทั้งมีเนื้อเรื่องที่ดาร์กและในตอนจบเจ้าหญิงก็ไม่ได้แต่งงานกับเจ้าชาย นอกจากนี้ลูกสาวหนึ่งคนของพระราชายังต้องไปแต่งงานกับผู้ที่เปิดโปงความลับของตนเองอีกด้วย
.
แม้ว่าเรื่องราวของ ‘12 เจ้าหญิงเริงระบำ’ จะมีความแตกต่างกันในบางมุม แต่สิ่งที่ทั้งคู่มีเหมือนกันคือการมอบความบันเทิงให้กับผู้อ่านและผู้ชมทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ซึ่งหากใครคิดถึงแอนิเมชันบาร์บี้และอยากกลับไปดู ‘Barbie In The 12 Dancing Princess บาร์บี้ ใน 12 เจ้าหญิงเริงระบำ’ (2006) และบาร์บี้เรื่องอื่น ๆ สามารถรับชมได้ที่แอปพลิเคชัน Apple TV ได้เลย
.
ที่มา
.
เรื่อง จิตรลดา สุขเกษม (Intern)
.
Comments