top of page

Master Class เปลี่ยนโรงละคร ให้เป็นห้องเรียนโอเปร่าสุดเข้มข้น


นี่ไม่ใช่แค่ละครเวที แต่นี่คือ “Master Class” 

.

คลาสเรียนโอเปร่าสุดเข้มข้นที่ตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวเข้าโรงละคร ก็ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปนั่งสังเกตการณ์ในห้องเรียนจริง โดยมีอาจารย์โอเปร่าสุดโหดคอยนั่งเลคเชอร์ตลอดความยาว 2 ชั่วโมง 40 นาที แต่กลับไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่ทำให้ผู้ชมเบื่อ เพราะได้ลีลาของ ‘Maria Callas’ อดีตนักร้องโอเปร่าชื่อดัง มานั่งเชือดการสอบร้องโอเปร่าของนักเรียนทีละคนอย่างเลือดเย็น ซึ่งคลาสเรียนนี้ก็ไม่ได้ราบรื่นไปด้วยกลีบกุหลาบ เพราะแต่ละบทเพลงได้พาเธอหวนรำลึกถึงความหลังที่ทั้งรุ่งโรจน์และขมขื่น เป็นละครที่มีครบทุกอารมณ์ ทั้งขำกลิ้งดราม่าดิ่ง พร้อมด้วยลูกเล่นสารพัดแบบจัดเต็ม

.

ต้องเกริ่นก่อนว่า ‘Maria Callas’ เป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง เธอเป็นอดีตนักร้องโอเปร่าสุดโด่งดังที่ผันตัวมาเป็นอาจารย์พิเศษในช่วงปี 1970 และถูกนำเรื่องราวชีวิตมาเล่าอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น เวอร์ชันสารคดี เวอร์ชันภาพยนตร์ (“Maria” นำแสดงโดย Angelina Jolie) และเวอร์ชันละครเวทีที่รู้จักกันดีมี Terrence McNally เป็นผู้เขียนบท แสดงครั้งแรกที่บรอดเวย์ในปี 1995 ได้รับรางวัล Tony Award ถึง 3 รางวัล ทั้งรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยม รางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม และรางวัลบทละครยอดเยี่ยม ด้วยดีกรีต้นฉบับคุณภาพมากขนาดนี้ พอ ‘ธาริน ปริญญาคณิต’ นำมาแปลไทยทั้งทีก็ยังคงเปี่ยมคุณภาพไม่แพ้กัน เพราะบทสามารถแปลได้อย่างมีจริตและกัดแซะได้อย่างเจ็บแสบเหมือนต้นฉบับ นอกจากนี้ละครยังเป็น Foreigner Friendly มีฉายคำบรรยายภาษาอังกฤษตลอดการแสดงอีกด้วย

.

อย่างที่จั่วหัวไว้ว่า ละครเรื่องนี้ไม่ถือตัวเองเป็นละคร แต่ถือตัวเองเป็น ‘ห้องเรียน’ ตามบริบทในเรื่อง ผู้ชมจึงถูกทำให้กลายเป็นผู้สังเกตการเรียนการสอนใน Master Class ไปโดยปริยาย ทุกตัวละครบนเวทีสามารถหันมาสื่อสารกับผู้ชมได้ทุกเมื่อ จนบางทีก็ไม่แน่ใจว่า สิ่งที่ตัวละครพูดอยู่กับผู้ชมตอนนี้มีในบทละครจริงมั้ย เพราะตัวละครหันมาพูดกับผู้ชมอย่างเป็นธรรมชาติมาก แสดงให้เห็นถึงกำแพงระหว่างตัวละครและผู้ชมที่ถูกทำลายไป จึงไม่ยากที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับละครได้ง่าย 

.

ตลอดเรื่องจะไม่มีการย้ายฉากไปไหนเลยนอกจากห้องเรียนนี้ แต่อย่าได้กลัวไปว่าการเล่นสถานที่เดียวจะสร้างความน่าเบื่อหน่าย เพราะ Master Class ถูกดำเนินผ่านสองเส้นเรื่อง เส้นเรื่องการสอบในคลาสเรียนและเส้นเรื่องอดีตของ Maria Callas ในส่วนของเส้นเรื่องคลาสเรียนก็เหมือนกับการเรียนจริง ๆ ที่มีอาจารย์สุดเข้มงวดคอยจี้นักเรียน ซ้ำยังชอบคอยพูดจาขยี้วงการศิลปะอยู่บ่อย ๆ ด้วยวาจาสง่ากัดเจ็บเช่นนี้ของอาจารย์จึงทำให้ผู้ชมเพลิดเพลินกับความตลกร้ายของเธอไม่น้อย นอกจากนี้ ผู้ชมยังจะได้ฟังโอเปร่าสดแบบฟิน ๆ ที่แต่งโดยคีตกวีโอเปร่าทั้ง Bellini, Puccini และ Verdi ใครที่เนิร์ดโอเปร่าจะอินเป็นพิเศษแน่นอน และอีกเส้นเรื่องหนึ่ง อดีตของ Maria Callas ก็จะพาผู้ชมหดหู่ไปกับ Monologue สุดโหดที่สามารถสื่อสารเรื่องราวการชำแหละอดีตของเธอได้อย่างโหดร้ายและน่าเห็นใจ ทั้งสองเส้นเรื่องนี้ช่วยกันผลักดันประเด็น ‘ความเจ็บปวดของการเป็นศิลปิน’ ที่ละครต้องการจะสื่อสารได้อย่างยอดเยี่ยม

.

ความดีงามทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าขาดตำแหน่งผู้ส่งสารอย่าง ‘นักแสดง’ เพราะนักแสดงทุกคนในเรื่องสามารถทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี มีฟังก์ชันและคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน ว่ากันว่า “ยิ่งตัวละครต่างกันเท่าไหร่มาอยู่ด้วยกัน ก็จะยิ่งสนุกเพิ่มขึ้นเท่านั้น” ซึ่ง Master Class สามารถพิสูจน์ประโยคนี้ได้เป็นอย่างดี จากทั้งคำพูด นิสัย วิธีการคิด หรือกระทั่ง Body Movement ของทุกตัวละครที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ พอมาอยู่ร่วมกันก็ทำเอาผู้ชมอยากจะรู้ต่อเลยว่าซีนจะลงเอยอย่างไร แสดงให้เห็นถึงการทำการบ้านอย่างหนักของนักแสดง

.

ฝีมือการแสดงนำของ ‘จารุนันท์ พันธชาติ’ ในบทบาท Maria Callas บอกได้เลยว่าทำถึง เชื่ออย่างสนิทใจว่า เธอคนนี้เป็นอดีตดีว่าในตำนาน เห็นได้ถึงศักยภาพมหาศาลที่เธอมีและปมในใจที่เธอแบกไว้ ยิ่งเรื่องสำเนียงภาษาวิธีการพูดอิตาลี เธอก็ทำออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ราวกับใช้มันในชีวิตประจำวันจริง รวมทั้ง Monologue สุดหิน เธอก็เอาอยู่ ไม่ว่าจะยาวหรือต้องส่งอารมณ์แค่ไหน เธอก็สามารถสะกดทุกสายตาและส่งพลังไปทั่วทั้งคลาสเรียนได้อย่างตัวแม่ตัวมารดา

.

แก๊งนักเรียน ‘Sophie’ ‘Tony’ และ ‘Sharon’ ก็พากันส่งพลังไม่ยั้ง จากคาแรคเตอร์ที่น่าจดจำและเสียงร้องโอเปร่าเพราะจับใจ ทำเอาผู้ชมหูเคลือบทองและเคลิ้มไปตาม ๆ กัน ประกอบกับเสียงเปียโนแสนไพเราะจาก Manny มือเปียโนที่ไม่ได้มีฟังก์ชันแค่บรรเลงเพลง แต่ยังคอยช่วยช้อนคอยส่งพลังให้กับ Maria Callas ซึ่งดีงามไม่แพ้กัน และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือตัวละคร Cameo ลับของเรื่องที่ออกมาทีสร้างความเซอร์ไพรส์กับผู้ชมมาก อย่างในรอบที่ The Showhopper ได้รับชมมี ‘ประดิษฐ์ ประสาททอง’ ศิลปินแห่งชาติ มารับบทนี้ ออกมาทีขโมยซีนสุด ๆ และความเจ๋งคือ การแสดงทุกรอบจะเปลี่ยนนักแสดงผู้รับบทนี้ไปเรื่อย ๆ ทางละครจะเชิญศิลปินตัวเบิ้มมารับบทนี้โดยเฉพาะ

.

ในส่วนของงานโปรดักชันก็น่าชื่นชมเช่นเดียวกัน ทั้งการใช้โปรเจ็กเตอร์มาฉายภาพรำลึกความหลังที่เรียกเสียงทั้งเสียงฮาและน้ำตาได้อย่างน่าพิศวง คอสตูมที่หลุดมาจากช่วงปี 1970 และช่วยส่งตัวละครให้ชัดเจน แสงเสียงที่แม้มาไม่เยอะ แต่พอมาทีไรก็ทำเอาขนลุกขนพองทุกครั้ง และเปียโนที่เล่นให้ฟังกันแบบสด ๆ ในคลาสเรียนไม้ที่สร้างขึ้นใหม่ ๆ เพื่อละครเรื่องนี้ ช่างเป็นโปรดักชันที่ทะเยอทะยานและทำงานกับผู้ชมอย่างไม่น่าแปลกใจ

.

ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าขาดฝืมือการกำกับของ ‘ธาริน ปริญญาคณิต’ ที่สามารถกำกับได้ประณีตและละเอียดอ่อน ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องปั้นให้หวือหวาแต่ทรงพลังจากการกำกับอันชาญฉลาด สรุปได้ว่า Master Class เป็นละครอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ทั้งการกำกับที่เก็บทุกเม็ด นักแสดงมากลูกเล่น ซึ่งจะมีการแสดงรอบอื่น ๆ อีกในวันที่ 27 - 29 มิถุนายน ณ ห้อง RCB Forum ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ใครที่สนใจอยากรับชมละครเวทีเรื่อง “Master Class” สามารถซื้อบัตรหรือติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการแสดงทางเฟซบุ๊ก Master Class Play Bangkok 

.

.

เรื่อง: Phakkearth (Intern)

.


Comments


©2023 by The Showhopper

bottom of page