top of page

ทำไมหนังในความทรงจำกลับมารัวๆ? แอบส่อง ‘Nostalgia Fever‘ ในวงการจอเงินที่ฮีลใจวัยรุ่น 90s - 00s ทั่วโลก

ree

สมัยเด็ก ๆ ในยุคที่เพิ่งหัดดูหนัง ผมเคยทั้งตื่นเต้นและตื่นตาตื่นใจเมื่อครั้งที่ Star Wars Original Trilogy (EP 4-5-6) กลับมาเข้าโรงฉายใหม่ตอนปี 1997 เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบ 20 ปีของหนัง

.

จำได้ว่านอกจากตัวเองที่ hype สุด ๆ แล้ว (อันเนื่องมาจากกิตติศัพท์ของมัน, การโปรโมตว่าจะคัมแบ็คแบบ Special Edition และที่สำคัญคือไม่เคยมี full experience กับไตรภาคชุดนี้มาก่อน) ผมยังเห็นกระแสความใจฟูบางอย่างก่อตัวขึ้นในหมู่คนดูรุ่นพ่อแม่ คนที่อายุมากกว่า คนที่ hype มาก่อนเรา โดยที่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าความรู้สึกของพวกเขาในตอนนั้นมันเป็นอย่างไร

.

เกือบ 30 ปีจากวันนั้นถึงวันนี้ ประสบการณ์ชีวิตทั้งช่วงเวลาส่องสว่างและริบหรี่ที่เพิ่มพูนของตัวเอง ผนวกกับกลยุทธ์เดินเกมของอุตสาหกรรมหนังอเมริกันยุคนี้ ที่อาศัยบทเรียนความสำเร็จจากแนวคิด nostalgia ในการพุ่งเป้าหาผู้ชมครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ทำให้ผมเข้าใจเสียทีถึงฟีลลิ่งโหยหาความสุขเมื่อครั้งวันวานแบบที่คน Gen ก่อนหน้าเราเคยวิ่งตาม

.

Snow White (2025), Lilo & Stitch (2025), How to Train Your Dragon (2025), I Know What You Did Last Summer (2025), FREAKIER FRIDAY (2025) The Naked Gun (2025), The Running Man (2025), Frankenstein (2025), Anaconda (2025)

.

นี่คือรายชื่อหนังส่วนหนึ่งทั้งที่เราได้ชมกันไปแล้วและกำลังจะได้ชมในอนาคตอันใกล้นี้ ที่ใช้วิธีเดินตามรอยความสำเร็จในอดีตด้วยการกลับมาพบกับคนดูในสูตร ‘เรื่องเก่า | เล่าใหม่ | รูปโฉมเปลี่ยนไป | แต่ (น่าจะ) เยียวยาใจได้เหมือนเดิม’

.

ไม่ต้องขมวดคิ้วสงสัยเพราะคุณไม่ได้คิดไปเองคนเดียวครับ ฮอลลีวูดกำลังง่วนอยู่กับการหยิบของเก่ามาใช้งานใหม่จริง ๆ และเทรนด์ที่ว่านี้ก็วาดสเปกตรัมไปอย่างกว้างขวางตามแต่ผู้สร้างจะดีไซน์ ทั้งในรูปแบบ sequel, prequel, spin-off, remake ไปจนถึง reboot หรือ inspired by หรืออื่นใดก็ตามแล้วแต่จะเรียก

.

ในแง่ธุรกิจ ปัจจัยอันดับหนึ่งที่ทำให้ ‘การใช้ของเก่า’ กำลังเบ่งบานในอินดัสตรี้คงหนีไม่พ้นปัจจัยด้านความเสี่ยง

.

หนทางนี้ดูจะเป็นทางเลือกที่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะเมื่อใดก็ตามที่มีการประกาศโปรเจคท์หนังสักเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ’ของเก่า’ อย่างน้อยวิธีนี้ก็การันตีได้ทันทีว่าแฟนคลับเดนตายจำนวนหนึ่งน่าจะรอซัพพอร์ตกันอยู่ ซึ่งดูเป็นการออกสตาร์ทที่ดี …เรียกได้ว่าในช่วงเวลาที่ค่ายหนังต่างต้องท้าทายพายุเศรษฐกิจอันผันผวนในปัจจุบัน เพลย์เซฟไว้คือดีที่สุด (แม้จะเสี่ยงต่อการขาดความคิดสร้างสรรค์ในอนาคตก็ตาม)

.

แต่ในเชิงจิตวิทยา การเอาสิ่งที่เคย ‘โดนเส้น’ คนในยุคหนึ่งกลับมาให้พวกเขาได้สัมผัสกันใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นภาพยนตร์แล้ว คือหนึ่งในประสบการณ์ nostalgia ที่จับต้องได้มากที่สุด ที่เราสามารถกระโจนใส่ได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาวาดภาพเอาเองในหัว (และแน่นอนนี่คือสิ่งที่คนดูพร้อมจ่าย)

.

เรื่องราวเก่า ๆ เป็นประตูสู่ความทรงจำ ภาพยนตร์เก่า ๆ ก็มักถูกขีดเขียนทับซ้อนไปกับความทรงจำของเราเช่นกัน เพราะนอกจากความสนุกสนานประทับใจจากการได้ดูหนังเรื่องนั้นแล้ว นั่นอาจเป็นครั้งแรกด้วยที่พ่อแม่พาเราเข้าโรงหนังเพื่อเป็นของขวัญวันเกิด หรือเป็นครั้งแรกที่ได้รวมกลุ่มดูหนังกับเพื่อนสมัยมัธยมซึ่งกลายเป็นมิตรภาพสนิทสนมยั่งยืนมาถึงปัจจุบัน

.

เมื่อความสุขในวันนั้นถูกประทับรอยไว้ในใจ มันจึงกลายเป็นห้องความทรงจำที่เราอยากเปิดกลับเข้าไปเสพความรู้สึกนั้นอีกครั้งเพราะเป็นโซนที่คุ้นเคย ปลอดภัย และสบายใจ

.

จึงไม่แปลกที่ยุคนี้เราจึงเห็นการผลิต movie experience ที่เกาะอยู่กับความ nostalgia ของผู้คน ดาหน้าผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ไม่ว่าจะเป็นการเข้าฉายเนื่องในโอกาสครบรอบ การเอาหนังฮิตมา ‘เล่าเพิ่ม’ หรือการรื้อหนังเก่ามา ‘เล่าซ้ำ’ แล้วเพิ่มความสดใหม่อะไรบางอย่างเข้าไป เช่น แปลงโฉมให้เป็น live-action จากที่เคยเป็น animation มาก่อน

.

ผมยังจำการกลับมาฉายใหม่ครบรอบ 25 ปีของ Titanic เมื่อปี 2023 ได้เป็นอย่างดี ในฐานะคนที่เคยอยู่ในช่วงเวลา ‘ไททานิคฟีเวอร์’ สมัยที่หนังเปิดตัวฉายครั้งแรก ได้เห็นความมหากาพย์ในทุกมิติของมันทั้งตัวผลงานเองและกระแสสังคม รวมถึงได้เติบโตมาพร้อม ๆ กับการก้าวเดินของหนังในเส้นทางสู่การกลายเป็นหนึ่งในมาสเตอร์พีซที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

.

…วินาทีที่ภาพแรกของหนังปรากฏขึ้นพร้อมเสียงโหยหวนจากดนตรีประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ จึงดึงเอาความทรงจำในวัยเยาว์ของผมออกมากางให้ได้สำรวจความงดงามของมันอีกครั้งเต็มไปหมด

.

ผมดูเรื่องนี้กับพ่อและแม่ในโรง 3 รอบ…

.

รอบแรกทนปวดชิ้งฉ่องแทบไม่ไหว และช็อกเมื่อเจอฉากแจ็ควาดรูปโรส…

.

เครซี่ไททานิคถึงขนาดต้องไปซื้อหนังสือมาอ่านเพิ่ม ซื้ออัลบั้มซาวด์แทร็คมาฟัง อยากซื้อโมเดลเรือจำลองมาหักเล่น…

.

เป็นปีแรกที่ทำให้ดูงานออสการ์ และพบว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยหากอยากตามข่าวสารออสการ์ในยุคนั้น…

.

รวมถึงเป็นหนังเรื่องแรกที่ขอตังค์แม่ซื้อ VHS Box Set พร้อมของที่ระลึก กระทั่งอีกหลายปีต่อมาก็ซื้อ DVD Box Set Collector’s Edition ด้วยเงินของตัวเอง

.

…นี่เองคืออานุภาพของ nostalgia ที่เปรียบเสมือนไทม์แมชชีนพาเรากลับไปเจอความอิ่มเอมใจในวันเก่าได้อย่างมหัศจรรย์

.

เหตุผลน่าคิดอีกข้อหนึ่งว่าด้วยความนิยมในเทรนด์ ‘nostalgia movie experience’ ที่กำลังเฟื่องฟู (ซึ่งเอาจริงคือ apply ได้หมดในอีเวนต์รูปแบบอื่น ๆ เช่น รียูเนียนคอนเสิร์ต, รายการทอล์กสไตล์เรื่องวันวาน) ก็คือไทม์มิ่งที่ลงตัวของคน Gen Y ในเวลานี้

.

Gen Y (หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Millennials) คือกลุ่มคนที่เกิดมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสังคม เป็น Gen แรกที่รู้จักคำว่า ‘โลกไร้พรมแดน’ เติบโตมากับอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ การก่อกำเนิดของโซเชียลมีเดีย และในแง่ความบันเทิง นี่คือ Gen ที่โอกาสในการเข้าถึงภาพยนตร์มีมากกว่ารุ่นพ่อแม่ของตัวเอง

.

พ่อแม่ของคน Gen Y (ซึ่งก็คือ Gen X) นั้นเติบโตมาในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ส่งผลให้คน Gen นี้ทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้ครอบครัวและลูก ๆ ของตัวเองสุชสบาย การเก็บเกี่ยวประสบการณ์การชมภาพยนตร์จึงอาจไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นนักสำหรับรุ่นพ่อแม่เรา (ดังนั้นถ้าหนังเรื่องไหนโด่งดังใน Gen ของพวกเขา แปลว่ามันดังแบบโคตรดังจริง ๆ เช่น The Sound of Music (1965), Star Wars (1977))

 .

ในขณะที่คน Gen Y นั้นมีโอกาสเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองมากกว่า การซิกแซกไปยังศาสตร์หรือความสนใจด้านอื่นจึงเปิดกว้างกว่า และหนึ่งในนั้นก็คือภาพยนตร์ ซึ่งคน Gen Y ยังได้ประโยชน์ในการเข้าถึงภาพยนตร์ที่ง่ายกว่าคน Gen X จากการมาถึงของฟอร์แมต VHS (Video Home System) หรือม้วนวิดีโอเทปที่ได้รับความนิยมอย่างมากช่วงยุค 80-90 ด้วย ซึ่งถ้าใครจำได้ กาลครั้งหนึ่งบ้านเราก็เคยมีธุรกิจร้านเช่าวิดีโอกันเป็นล่ำเป็นสัน ผมเองยังเป็นคนนึงที่ต้องไปหอบวิดีโอแขนโตมาจากร้านเช่าทุกสัปดาห์

.

ดังนั้นพันธะระหว่าง ‘Gen Y’ กับ ‘ภาพยนตร์’ จึงแข็งแกร่งเพียงพอที่ nostalgia movie experience จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกลายมาเป็นสิ่งที่ถูกอกถูกใจคนยุคนี้รัว ๆ

.

การกลับมาพบกับผู้ชมในรูปแบบรีเมคยังสามารถพาคนดูกลุ่มใหม่ ๆ มาสู่เรื่องราวเก่าทว่าอมตะได้ด้วย สตอรีบางสตอรีนั้นอยู่เหนือกาลเวลา แต่อาจติดข้อจำกัดทางเทคโนโลยีในการสร้างภาพยนตร์ ณ เวลานั้น หรือไม่สอดรับกับบริบทสังคมในยุคนี้อีกต่อไป การ ‘เล่าซ้ำ’ จึงเป็นการเปิดโอกาสให้เรื่องราวเดิมถูกเล่าอย่างมีคุณภาพมากขึ้น เป็นการสร้างความทรงจำใหม่ และเชื่อมโยงผู้คนต่างเจนเนอเรชันเข้าด้วยกัน

.

วันที่ไปดู How to Train Your Dragon ผมบังเอิญสังเกตเห็นครอบครัว ๆ หนึ่งซึ่งกำลังพูดคุยกันหลังหนังจบและคุณพ่อมี mention ถึงหนังฉบับการ์ตูนกับวันเวลาเก่า ๆ ให้ลูกฟัง ก็อดอมยิ้มตามไม่ได้จริง ๆ ครับ เป็นมวลความรู้สึกดีที่ผสมผสานกันไปหมด ทั้งการส่งผ่านเรื่องราวฮีโร่ผู้บันดาลใจจากรุ่นสู่รุ่น การถ่ายโอนพลังดี ๆ ของคนในครอบครัว หรือแม้กระทั่ง nostalgia ที่ตัวผมเองก็ขอแชร์ประสบการณ์ร่วมด้วยอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบ ๆ

.

พลังแห่งการ ‘หวนรำลึก’ เป็นมนต์เสน่ห์แห่งกาลเวลาที่ทรงคุณค่าเสมอ และดูเหมือนว่าหนังยุคนี้ก็จับจุดได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ตราบใดที่ผู้สร้างพร้อมเสิร์ฟ เราคนดูก็พร้อมติดกับดักความทรงจำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างเต็มใจ ว่ามั้ยครับ

.

เรื่อง: Gaslight Café

.

#TheShowhopper #MindCraft #Movies #หนังเก่า #หนังใหม่ #Nostalgia


ความคิดเห็น


©2023 by The Showhopper

bottom of page