“พระร่วง..มหาศึกสุโขทัย” ลีลานำเสนอเชิงทดลองที่น่าติดตาม กับการหลอมรวมศาสตร์ ‘ภาพยนตร์’ และ ‘ละครเวที’

สองเรื่องราวจากสองช่วงเวลา กับการนำเสนอผ่านสองศาสตร์ที่ถูกตัดสลับอย่างลงตัว.. นี่เป็นคำเปรยสั้นๆ ที่ผู้เขียนสามารถใช้เพื่อพูดถึงภาพยนตร์เรื่อง “พระร่วง..มหาศึกสุโขทัย” ได้ แบบไม่สปอยล์ หลังที่ได้ร้บชมภาพยนตร์มาสดๆ ร้อนๆ  ในคอลัมน์ ‘ไปดูมาแล้ว’ วันนี้เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์และความรู้สึกให้ชาวเพจ The Showhopper ได้อ่านกัน ก่อนรับชมจริงในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ 

.

• สองเรื่องราวจากสองช่วงเวลา • 

.นอกเหนือจากการนำเสนอเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ในช่วงสถาปนากรุงสุโขทัย การต่อสู้ ศึกสงคราม ความรัก และความเป็นพี่น้องของ ‘พรญาผาเมือง’ (รับบทโดย เต้ย-พงศกร) และ ‘ขุนบางกลางหาว’ (รับบทโดย แก๊ป-ธนเวทย์) แห่งอาณาจักรศรีสัชนาลัย ซึ่งเป็นภาพหลักที่ถูกนำเสนอผ่านวิดีโอตัวอย่างที่ทุกคนได้รับชมกัน ในอีกเส้นเรื่องหนึ่งที่ดำเนินไปคู่กันจะเป็นเรื่องราวของโปรดักชันละครเวทีในยุคปัจจุบัน ที่ต้องต่อสู้กับปัญหาทางการเงินอย่างหนักเพื่อสร้างละครเวทีเรื่อง ‘พระร่วง’ จากบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 

.

การต่อสู้เพื่อที่จะสร้างงานศิลปะหนึ่งชิ้นออกมาให้สำเร็จกับการต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเมืองจึงถูกดำเนินไปคู่กัน เราจะได้เห็นการตัดสินใจของตัวละครจากสองช่วงเวลาในปมปัญหาที่เชื่อมโยงกันอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ผู้ชมต้องจดจ่อติดตามกับทั้งสองไทม์ไลน์ไปตลอดทั้งเรื่อง

.

• การหลอมรวมศาสตร์ ‘ภาพยนตร์’ และ ‘ศิลปะการแสดง’ กับลีลาการนำเสนอเชิงทดลอง •

.

คำว่า ‘สองศาสตร์’ ที่กล่าวถึงก่อนหน้า ไม่ใช่ลีลาท่าทางของภาพยนตร์มิวสิคัลที่ตัดสลับนำเสนอบทพูดกับบทเพลงทั่วไป แต่เรื่องนี้ใช้การตัดสลับในเชิงภาพแสดงกันเลยทีเดียว ผู้กำกับ ‘แน็ต – ชาติชาย เกษนัส’ ได้พาเอาศาสตร์ศิลปะการแสดงอีกหลายรูปแบบมาใช้เล่าเรื่องแต่ละฉากอย่างตระการตา ไม่ว่าจะเป็น ละครเพลง, ละครแนวฟิซิคัล, ละครหุ่นเชิด ไปจนถึงการเต้นแบบร่วมสมัยก็มีมาให้เห็น โดยหลังจากที่ได้รับชม ผู้เขียนมองว่าเป็น ‘การเลือกนำเสนอ’ ที่น่าสนใจทีเดียว 

.

คล้ายกับเวลาดูภาพยนตร์ที่ตัดสลับระหว่างภาพคนแสดงแบบสมจริงกับภาพแอนิเมชัน ที่ผู้สร้างใช้วิธีการที่แตกต่างกันในการเล่าความรู้สึกแต่ละฉากตามจุดประสงค์ของศาสตร์นั้นๆ เช่น ในฉากทำศึกสงคราม การดูคนแสดงจริงในพื้นที่จริง กับเอฟเฟกต์ระเบิดภูเขาเผากระท่อมแบบจัดเต็มอาจสร้างความรู้สึกได้ดีกว่า แต่ในฉากปะทะคารม เชือดเฉือนกันระหว่างตัวละคร อาจเปลี่ยนไปเป็นละครเวทีที่พูดกันเป็นบทกลอน ฉากที่ตัวละครตกอยู่ในภวังค์ทางอารมณ์ที่ดำดิ่งมากเกินกว่าคำพูดจะอธิบายได้ อาจเล่าผ่านการใช้ Body Movement แทน ซึ่งนี่คือลีลาท่าทางการนำเสนอที่ทุกคนจะได้เห็นในภาพยนตร์ “พระร่วง..มหาศึกสุโขทัย” ที่บอกเลยว่าถ้าใครเป็นคนชอบดูละครอยู่แล้วน่าจะสนุกที่ได้ลุ้นกันว่าในฉากต่อไปหนังจะนำเสนอฉากต่อไปในรูปแบบไหน

.

ด้วยความที่ภาพยนตร์มีการใช้ศาสตร์ศิลปะการแสดงมาผสมผสาน ทำให้เราจะได้เห็นบุคลากรคุณภาพจากแวดวงแวะเวียนมาปล่อยของกันตลอดทั้งเรื่อง เริ่มกันที่งานเบื้องหลัง ก็ได้ ‘วิน — อนาวิล วิภาสวัสดิ์’ ผู้อำนวยการสร้าง “พระร่วงเดอะมิวสิคัล” ก็กลับมาขึ้นแท่นเป็นโปรดิวเซอร์ในโปรเจกต์นี้ และผู้กำกับ ‘แน็ต — ชาติชาย เกษนัส’ เองก็เพิ่งฝากผลงานการกำกับภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ขวัญใจคนละครเรื่อง แมนสรวง เสริมทัพด้วยนักแสดงสายร้อง อาทิ ‘สงกรานต์ — รังสรรค์ ปัญญาเรือน’ ‘เน็ท — กานดา วิทยานุภาพยืนยง’ ประกบนักแสดงรุ่นใหญ่ อย่าง ‘ตั๊ก — นภัสรัญชน์ มิตรธีรโรจน์’ ‘ตั้ว — ประดิษฐ ประสาททอง’ และอีกมากมาย ที่อยากให้ทุกคนไปรอชมกันในภาพยนตร์ว่าจะได้เห็นการปรากฏตัวของใครกันบ้าง

.

แล้วมาสัมผัสความยิ่งใหญ่แห่งศึกสงครามครั้งสำคัญผ่านการสืบค้นและตีความใหม่ กับการนำเสนอสุดตระการตากันได้ในภาพยนตร์เรื่อง “พระร่วง..มหาศึกสุโขทัย” พร้อมกันในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ 

.

.

เรื่อง: เจนจิรา หาวิทย์

.

#TheShowhopper #ไปดูมาแล้ว #พระร่วง #พระร่วงมหาศึกสุโขทัย #หนังไทย #หนังใหม่ #ละครเวที