รู้จัก Sophomore Slump คำสาป ‘ภาคต่อฟอร์มตก’ ที่เกิดขึ้นเมื่อภาคแรกทำไว้ดีเกิน
- The Showhopper Team
- 16 ก.ค.
- ยาว 1 นาที

Squid Game ซีซัน 3 ที่ว่ากันว่าเยิ่นเย้อและไม่คมคายเท่าซีซัน 1
.
แฟรนไชส์ Star Wars ที่ไตรภาคคลาสสิก (1977-1983) สร้างตำนานโด่งดังถล่มทลาย แต่ไตรภาคพรีเควล (1999-2005) กลับโดนวิจารณ์ยับ
.
ทันทีที่เห็นหัวข้อนี้ เชื่อว่าหลายคนคงนึกชื่อผลงานภาคต่อดังๆ ได้อีกมากมายหลายเรื่อง เพราะในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยแรงงานสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นวงการดนตรี วรรณกรรม หรือภาพยนตร์ก็ตาม ความสำเร็จครั้งแรกมักนำมาซึ่งความคาดหวังมหาศาลจากทั้งผู้เสพและนักวิจารณ์ เป็นเหตุให้ผลงานลำดับถัดมา หรือ ‘ภาคต่อ’ ต้องเผชิญกับปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Sophomore Slump
.
คำว่า Sophomore Slump หมายถึงสถานการณ์กระอักกระอ่วนที่เกิดขึ้น เมื่อผลงานชุดที่ 2 ไม่สามารถเทียบชั้นกับผลงานเปิดตัวได้ ทั้งในแง่คุณภาพ ความนิยม หรือความสดใหม่ของไอเดีย โดยคำนี้มีต้นกำเนิดจากวงการศึกษาของสหรัฐฯ โดย …
.
sophomore หมายถึง นักเรียนชั้นปีที่ 2
slump หมายถึง ภาวะตกต่ำหรือติดหล่ม
.
เมื่อนำมารวมกัน จึงหมายถึงภาวะที่เด็กขึ้นปี 2 มาแล้วดันเรียนแย่ลงกว่าตอนอยู่ปี 1 จากนั้นในเวลาต่อมา ก็เริ่มมีการพลิกแพลงเอาคำนี้มาใช้คำกับการสร้างผลงานนอกระบบการศึกษาด้วย เช่น
.
- Iggy Azalea เคยดังเปรี้ยงจากเพลง Fancy แต่คัมแบ็กรอบถัดๆ มาอย่าง Black Widow ไม่ค่อยเป็นกระแส รู้ตัวอีกทีเธอก็ไม่เป็นที่พูดถึงในฐานะแรปเปอร์ขายดีอีกเลย
- J.K. Rowling มูฟออนไปเขียนอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับ Harry Potter อยู่ช่วงหนึ่ง เช่น ผลงานแนวสืบสวนภายใต้นามแฝงลับ Robert Galbraith แต่เธอไม่ได้ประสบความสำเร็จนัก
- Enchanted (2007) ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังมิวสิคัลสำหรับครอบครัวที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง แต่ภาคต่อ Disenchanted (2022) กลับถูกวิจารณ์ว่าเป็นภาคต่อที่ไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก เพราะภาคแรกสมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้ว
.
สำหรับวงการจอเงินและจอแก้ว ไม่ว่าคำสาป ‘ภาคต่อฟอร์มตก’ จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงหรือแค่ทฤษฎี แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในหลายๆ กรณี แม้แต่ผู้เสพเองก็มองเห็นแพทเทิร์นที่นำมาสู่ข้อกล่าวหานี้ เช่น
.
1️⃣ เปรี้ยงแรกดังได้ด้วยฝีมือที่สะสมมาหลายปี แต่ผลงานชิ้นใหม่กลับปล่อยมาอย่างเร่งรีบเพื่อตักตวงกระแส
.
เมื่อโปรเจกต์แรกประสบความสำเร็จ ค่ายหรือผู้สร้างมักบีบให้ทีมสร้างรีบออกผลงานชิ้นต่อไปอย่างรวดเร็ว ความเร่งรีบในการผลิตผลงานเช่นนี้ส่งผลให้พวกเขาไม่มีโอกาสได้ขัดเกลาและพัฒนาผลงานเต็มที่เท่าโปรเจกต์แรก โปรเจกต์ถัดมาจึงมักขาดความลุ่มลึกและสมบูรณ์
.
2️⃣ เผชิญความคาดหวังสูงผิดปกติ เนื่องจากผลงานแรกทำไว้ดีมาก
.
ในบางกรณี ภาคต่ออาจไม่ได้แย่มากมาย แต่พอมีเงามืดขนาดมหึมาของความสำเร็จครั้งก่อนมาบดบัง ผู้ชมก็มักรู้สึกผิดหวังจากการคาดหวังเอาไว้สูงเกินไป หลายครั้งผลงานชิ้นใหม่จึงเสียเปรียบผลงานเก่าที่เฉิดฉายได้ทันที โดยไม่ต้องเผชิญกับความคาดหวังของแฟนๆ
.
3️⃣ กระแสนิยมเปลี่ยนไป แต่งานใหม่ยังใช้แนวทางเก่า
.
ระยะห่างระหว่างภาคแรกและภาคต่อเองก็มีผลเช่นกัน เพราะหลายครั้ง กว่าภาคต่อจะถ่ายทำเสร็จ ตลาดความนิยมและกระแสก็อาจเปลี่ยนไปแล้ว หรือเกิดคู่แข่งรายใหม่ๆ เข้ามาแย่งชิงความสนใจ ภาคต่อที่ผลิตขึ้นโดยใช้แนวทางเดิมๆ จึงสูญเสียข้อได้เปรียบเรื่องความสดใหม่ไป
.
บางครั้ง ‘ความสำเร็จ’ จึงกลายเป็นดาบสองคมบนเส้นทางชีวิตของคนทำงานสร้างสรรค์ จากเดิมที่ควรจะเป็นเส้นชัย กลับกลายเป็นว่านี่คือจุดที่ทุกอย่างเริ่มยากขึ้น เพราะเมื่อเราปล่อยของจนสุดฝีมือไปแล้วครั้งหนึ่ง ผลงานต่อมาจึงเป็นการท้าทายตนเองให้ก้าวข้ามความคาดหวังของผู้คนไปให้ได้
.
แต่ข่าวดีคือมีผู้คนไม่น้อยเลยที่ทำสำเร็จ! ถ้าพูดถึงหนังภาคต่อปังๆ คอหนังหลายคนอาจนึกถึงหนังชุด The Dark Knight หรือแอนิเมชั่นชุด Toy Story
.
💌 แล้วชาวเพจล่ะ มีผลงานภาคต่อในดวงใจเรื่องไหนที่ทลายคำสาป Sophomore Slump สำเร็จบ้าง?
.
#TheShowhopper #Films #Movies #SophomoreSlump #Sequel #Prequel #หนังภาคต่อ #ฟอร์มตก














ความคิดเห็น