หนังมิวสิคัลที่ต้องจับตา! Kiss of the Spider Woman กับมิติทับซ้อนของ ‘เรือนจำ’ และ ‘เสียงเพลง‘
- Gaslight Café

- 28 ส.ค.
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 29 ส.ค.

สิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับคอหนังเพลงช่วงปลายปีนี้คือ นอกจากจะมี Wicked: For Good มาเสิร์ฟให้ได้ฟินกันแล้ว ฮอลลีวูดยังเข็น Kiss of the Spider Woman ผลงานเรื่องล่าสุดจากการกำกับและเขียนบทของ Bill Condon ซึ่งเคยกำกับงานมิวสิคัลอย่าง Dreamgirls (2006) และ Beauty and the Beast (2017) รวมถึงเคยดัดแปลงบทให้กับทั้ง Chicago (2002), Dreamgirls และ The Greatest Showman (2017) มารออยู่ในลิสต์ด้วย
.
นี่ไม่ใช่อีกมัลติเวิร์สหนึ่งของ Peter Parker แต่อย่างใด แต่ Kiss of the Spider Woman คือเรื่องราวที่เล่าถึงนักโทษสองคนที่ถูกคุมขังในห้องขังเดียวกัน หนึ่งคือ ‘Valentin Arregui’ นักโทษการเมืองผู้เปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์แรงกล้าจากกลุ่มปฏิวัติที่พยายามโค่นล้มระบอบเผด็จการ อีกคนคือ ‘Luis Molina’ โฮโมเซ็กชวลผู้เชื่อมั่นในความรักและไม่สนใจการเมืองซึ่งถูกจับข้อหาล่อลวงผู้เยาว์
.
ความสัมพันธ์ที่น่าจะเป็นไปไม่ได้ของสองเจตนารมณ์ที่แตกต่างกัน ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นผ่านโลกแห่งภาพยนตร์ของโมลิน่าและนักแสดงหญิงคนโปรดของเขาที่มีนามว่า ‘Ingrid Luna/Aurora’ โดยหนึ่งในบทบาทที่โมลิน่าทั้งหลงใหลและหวาดกลัวก็คือ บทบาท ‘นางพญาแมงมุม’ ซึ่งฆ่าเหยื่อของเธอด้วยการจุมพิต
.
Jennifer Lopez, Diego Luna และ Tonatiuh รับบทเป็นอิงกริด ลูน่า/ออโรร่า, วาเลนติน อาร์เรกี และลุยส์ โมลิน่า ตามลำดับ กระแสที่เริ่มมีมาให้ได้ยินกันบ้างแล้วคือ นี่อาจจะเป็นบทบาทที่ส่งให้ JLo ได้เข้าชิงออสการ์เป็นครั้งแรกก็เป็นได้
.
🕷️ จากวรรณกรรมสู่เวทีโลก
.
ต้นฉบับของ Kiss of the Spider Woman นั้นเป็นนิยายในปี 1976 ที่แต่งโดยนักเขียนชาวอาร์เจนติน่า Manuel Puig ลักษณะพิเศษของนิยายเรื่องนี้คือ จะไม่มีการบรรยายเล่าเรื่องแบบปกติ แต่ดำเนินเรื่องส่วนใหญ่ด้วยบทสนทนาที่ไม่ระบุตัวตนผู้พูดอย่างชัดเจน ยกเว้นการใช้เครื่องหมายขีดเพื่อแสดงการเปลี่ยนผู้พูดเท่านั้น รวมทั้งยังมีสไตล์การเขียนด้วยกระแสสำนึก (stream of conciousness) อยู่เป็นจำนวนมาก
.
กลางทศวรรษ 80 นิยายถูกนำมาพัฒนาเป็นทั้งละครเวที (ที่เป็นละครพูด) และฉบับภาพยนตร์ในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งสองเวอร์ชันเปิดตัวในปี 1985 โดยฉบับละครเวทีเปิดแสดงที่ลอนดอนโดยมี Mark Rylance รับบทวาเลนติน และ Simon Callow รับบทโมลิน่า
.
ส่วนฉบับภาพยนตร์นั้น วาเลนตินรับบทโดย Raul Julia และโมลิน่ารับบทโดย William Hurt หนังได้รับคำวิจารณ์แง่บวกอย่างงดงาม ได้ชิง 4 ออสการ์ และชนะไป 1 จากนำชายของวิลเลียม เฮิร์ท โดยอีก 3 สาขาที่เหลือก็ล้วนเป็นสาขาใหญ่ทั้งสิ้น ได้แก่ ผู้กำกับยอดเยี่ยม, บทดัดแปลงยอดเยี่ยม และภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
.
หลังจากนั้น Kiss of the Spider Woman ก็ถูกหยิบมาดัดแปลงเป็นงานมิวสิคัลโดย John Kander, Fred Ebb และ Terrence McNally เปิดแสดงที่เวสต์เอนด์ในปี 1992 แล้วจึงตามมาด้วยบรอดเวย์ในอีกหนึ่งปีให้หลัง
.
โปรดักชันนี้ประสบความสำเร็จเช่นกัน เพราะชนะไปถึง 7 รางวัลโทนี โดย 3 นักแสดงหลักของเรื่องต่างคว้าโทนีไปครองได้ทั้งหมด ได้แก่ Chita Rivera ในบทออโรร่า, Brent Carver ในบทโมลิน่า และ Anthony Crivello ในบทวาเลนติน ตบท้ายด้วยรางวัลใหญ่สุดอย่างละครเพลงยอดเยี่ยม
.
ประเทศไทยก็เคยมีการนำมิวสิคัลเรื่องนี้มาแสดงเช่นกันในช่วงปี พ.ศ. 2544-2545 โดยใช้ชื่อไทยว่า ‘จุมพิตนางแมงมุม’ กำกับโดยยุทธนา มุกดาสนิท ส่วนบทออโรร่าก็เคยได้นักแสดงเสียงทรงพลังมารับบท ไม่ว่าจะเป็น แม่แดง - ฉันทนา กิตติยพันธ์ และ สุกัญญา มิเกล นอกจากนี้ยังมีอีกหลายครั้งที่คณะละครโรงเล็กไปจนถึงละครโปรดักชันนักศึกษาหยิบเอาบทประพันธ์เรื่องนี้มาแสดง
.
🕷️ แก่นแท้ที่อยู่เหนือกาลเวลา
.
Kiss of the Spider Woman เป็นที่จดจำของผู้ชม เพราะมันพาไปสำรวจประเด็นเกี่ยวกับเพศสภาพและอัตลักษณ์ของชาวรักร่วมเพศได้อย่างลึกซึ้ง เข้าอกเข้าใจ และกล้าหาญ โมลิน่าไม่ได้เป็นเพียงตัวละครชายขอบที่ถูกนำเสนอในแง่ของความแปลกแยกเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวละครที่มีมิติซับซ้อน เป็นตัวแทนของความเปราะบาง ความเด็ดเดี่ยว และความศรัทธาต่อความรักในอุดมคติ
.
ยิ่งไปกว่านั้นประเด็นว่าด้วยการต่อสู้กับการถูกกดขี่ทั้งในมิติทางการเมืองและสังคม ก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้วรรณกรรมเรื่องนี้ทรงคุณค่าอย่างไม่เสื่อมคลาย ตราบเท่าที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่บนโลก เรื่องราวของวาเลนตินกับโมลิน่าจะยังคงมีความสำคัญและร่วมสมัยอยู่เสมอ
.
นอกจากนี้มันยังเป็นเรื่องราวที่ชี้ให้เห็นว่าจินตนาการสามารถเป็นประตูสู่ความหวังได้ทุกรูปแบบที่มนุษย์เราถวิลหา เป็นพื้นที่ปลอดภัยทางใจที่สามารถพาเราหลีกหนีออกจากความจริงอันโหดร้าย กระทั่งเป็นได้ทั้งที่พึ่งพิงและขุมพลังเยียวยาเพื่อเอาชีวิตรอดยามไร้อิสรภาพ
.
ในอีกแง่มุม ความนิยมอย่างยาวนานของ Kiss of the Spider Woman ยังเกิดมาจากการดัดแปลงสู่การแสดงรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งได้ยกระดับตัวละคร 'ดาราสาวขวัญใจ' ให้เป็นมากกว่าแค่ความหลงใหลของคน ๆ หนึ่ง แต่กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่เชื่อมโยงความรู้สึกนึกคิดและคติที่โมลิน่ายึดมั่นได้อย่างแนบเนียนมีความหมาย จนเกิดเป็นความแตกต่างที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมด้วย
.
🕷️ เราน่าจะได้เจออะไรใน ‘นางแมงมุม 2025’
.
ด้วยความที่การดัดแปลงสู่จอเงินครั้งนี้มีต้นฉบับมาจากมิวสิคัล ซึ่งใช้ประโยชน์ของความเป็นละครเพลงในการเล่าฉากโลกแฟนตาซีได้อย่างจัดจ้านเต็มที่ ทำให้นางแมงมุมในเวอร์ชันทั้งร้องทั้งเต้นนี้มีโทนที่แตกต่างจากหนังปี 1985 ที่เน้นความสมจริงและหม่นหมองกว่ามาก ซึ่งความฉูดฉาดนี้นี่เองก็เป็นสิ่งที่เราจะได้เจอในหนังเวอร์ชัน 2025
.
ความน่าสนใจอีกอย่างคือการที่ฉบับมิวสิคัลนำเสนอตัวละครหญิงผูัเปรียบเสมือนไอดอลของโมลิน่าให้โดดเด่นขึ้นกว่าเก่า ตรึงผู้ชมไว้กับเธอในทุก ๆ ฉากที่เธอปรากฎตัว ให้ชื่อเธอใหม่ว่า ‘ออโรร่า’ แล้วดำเนินเรื่องไปโดยผสมผสานโลกของโมลิน่ากับโลกของออโรร่าเข้าด้วยกัน
.
ภาพจำของออโรร่าคือหญิงสาวที่มีทั้งความอ่อนไหวและความแข็งแกร่ง ลึกลับทว่าสะกดทุกสายตา ดังนั้นการได้ JLo มาสวมบทในครั้งนี้จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่านี่คือตัวละครที่มีลักษณะเป็น gay icon และผู้ที่เคยรับบทนี้มาก่อนต่างก็มีความเป็น gay icon ไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Chita Rivera, Vanessa Williams (แสดงต่อจาก Rivera ที่บรอดเวย์) หรือแม้กระทั่งคุณแดง ฉันทนา และคุณสุกัญญา มิเกล
.
ในขณะที่อีกหนึ่งการแสดงที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษมาจากนักแสดงที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักอย่างโตนาติอูห์ ซึ่งเป็น queer ในชีวิตจริง และมีเสียงร่ำลือว่าเขาสวมบทโมลิน่าได้อย่างน่าประทับใจ รีวิวจาก Variety กล่าวชื่นชมว่า โตนาติอูห์มีโมเมนต์อันทรงพลังน่าจดจำระดับเดียวกับ Jennifer Hudson ใน Dreamgirls เลยทีเดียว เป็นโมเมนต์ที่ความปรารถนาภายในตัวละครเปล่งประกายออกมาในทุกช็อต
.
สำหรับสิ่งที่จะแตกต่างไปจากเวอร์ชันละครบรอดเวย์ก็คือ ฉากมิวสิคัลที่เกิดขึ้นในโลกความเป็นจริงจะถูกตัดออกไปหลายฉาก เพื่อให้เกิดความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างความดิบเถื่อนของชีวิตในเรือนจำ กับความหรูหราและสีสันตระการตาจากมิวสิคัลนัมเบอร์ในสไตล์หนังเพลงยุคเก่าของ MGM ซึ่งนี่ก็เป็นคอนเซปต์ที่ผู้กำกับ บิล คอนดอน หยิบยืมมาจากกระบวนการแปลงมิวสิคัลสู่หนังเพลงของเรื่อง Cabaret (1972)
.
นอกจากนี้จะมีเพลงแต่งใหม่ 3 เพลงจากจอห์น แคนเดอร์ และเฟร็ด เอบบ์ ผู้ประพันธ์เพลงดั้งเดิมของละครด้วย โดยแคนเดอร์เป็นผู้ประพันธ์ดนตรี ส่วนเนื้อร้องใช้จากเนื้อที่เอบบ์เคยแต่งไว้เมื่อครั้งที่เขายังมีชีวิตอยู่
.
Kiss of the Spider Woman มีการฉายรอบ World Premiere ไปแล้วตั้งแต่เทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเสียงตอบรับก็มาในทิศทางที่ดี …คราวนี้ก็เหลือแค่ว่ารอให้เราทุกคนได้ไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองแล้วครับ
.
อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ หนังยังไม่มีกำหนดฉายในบ้านเรา ส่วนคิวฉายในอเมริกาวางไว้วันที่ 10 ตุลาคมครับ
.
เรื่อง: Gaslight Café
.
#TheShowhopper #WhatsOn #Musical #Movie #KissoftheSpiderWoman #มิวสิคัล #หนังใหม่














ความคิดเห็น