เพราะแตกสลายจึงสวยงาม สำรวจเส้นทางการเติบโตของ “รูมิ” ผ่านบทเพลงใน KPOP Demon Hunters
- Tareerat.chal

- 7 ก.ค.
- ยาว 1 นาที

เป็นกระแสกันชั่วข้ามคืนกับแอนิเมชันเคป็อปมิวสิคัลจากบ้านเน็ตฟลิกซ์อย่าง “KPOP Demon Hunters” ทั้งตัวเนื้อหาครบรสทั้งรัก ล่า ฮา ซึ้ง กับการเล่าเรื่องผ่านเพลงที่เพราะจนเหมือนจะเอาไปตั้งวงไอดอลจริงๆ และภาพสุดพริ้วไหวสมฐาฯ Sony Animation ทำให้หนังเรื่องนี้เข้ามายึดพื้นที่ในหัวใจผู้ชม ต่อยอดไปเป็นการคัฟเวอร์ร้องเต้นว่อนโซเชียล แต่นอกจากการนำเสนอเรื่องราวการกำจัดปีศาจด้วยพลังของเสียงเพลงแล้ว ตัวภาพยนตร์ยังโฟกัสไปที่ ‘การก้าวข้ามความกลัวและบาดแผล’ ในจิตใจของตัวละครอีกด้วย ในคอลัมน์ Mind-Craft วันนี้ผู้เขียนเลยอยากพาทุกคนมาย้อนดูเส้นทางการเติบโตของตัวละครเอกอย่าง “รูมิ” ผ่านบทเพลงที่เธอร้องกัน ว่าลูกครึ่งนักล่าครึ่งปีศาจคนนี้เอาชนะความดำมืดในใจของตัวเองได้อย่างไร..
.
(มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์)

Track 1
.
“We are Hunters, voices strong
Slaying demons with our song
Fix the world and make it right
When darkness finally meets the light”
.
เริ่มที่บทเพลงของเหล่าฮันเตอร์ที่ถูกส่งต่อมารุ่นสู่รุ่น “รูมิ” ถูกสอนให้ร้องเพลงตั้งแต่เด็กทำให้เธอถูกปลูกฝังมาว่าปีศาจคือสิ่งที่ชั่วร้ายที่ต้องถูกกำจัด แต่ทว่าตัวรูมิเองก็เป็นลูกครึ่งปีศาจ ทำให้ตัวเธอเกิดความสงสัยว่า แล้วตัวเธอต้องถูกกำจัดด้วยไหม? แต่เซลีนก็ได้สั่งให้เธอปิดบังอักขระบนตัวไว้เพราะเธอไม่ใช่ปีศาจแต่เป็นฮันเตอร์ เพลงนี้จึงเป็นเหมือนเพลงที่คอยย้ำเตือนรูมิเสมอว่าตัวเธอยังไม่ถูกยอมรับจากสังคมจนกว่าจะสร้างฮอนมุนสีทองที่สามารถลบรอยอักขระบนตัวได้ เมื่อถึงตอนนั้นเธอก็จะถูกยอมรับจากสังคมอย่างแท้จริง

Track 2 - Golden
.
“Put these patterns all in the past now
And finally live like the girl they all see”
.
การสร้างฮอนมุนสีทองเปรียบเสมือนเป้าหมายสูงสุดที่พิสูจน์ว่ารูมิสามารถทำหน้าที่ของไอดอลและฮันเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบและไร้ที่ติ ทำให้รูมิกดดันตัวเอง และหักโหมอย่างหนักเพื่อที่เธอจะได้บรรลุเป้าหมายได้ทันก่อนที่รอยอักขระบนร่างกายของเธอจะใหญ่เกินปกปิดไว้ รูมิกดดันตัวเธอเองจนทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่เส้นเสียงอีกทั้งรอยอักขระบนตัวก็เพิ่มขึ้นทุกวัน รูมิเกิดอาการเครียดอย่างหนักแต่โชคดีที่เธอมีเพื่อนร่วมวง อย่าง ‘รามิ’ และ ‘โซอี้’ ที่คอยให้กำลังใจและเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข แต่ถึงจะรักกันเหมือนครอบครัวแต่รูมิก็ไม่อาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอได้เพราะเธอกลัวว่าเพื่อนรักทั้งสองจะไม่ยอมรับในตัวเธอทำใ้ห้รูมิยิ่งต้องตั้งกำแพงที่ป้องกันไม่ให้ทั้งสองได้เห็นตัวตนที่แท้จริงจนกว่าจะถึงวันสามารถสร้างฮอนมุนสีทองได้ วันนั้นเธอจะพังกำแพงที่กั้นความสัมพันธ์นั้นลง และเปิดเผยตัวตนทั้งหมดกับเพื่อนโดยไม่ต้องคอยปิดบัง และกลัวการไม่ถูกยอมรับอีกแล้ว

Track 3 - Take Down
.
“When your pattern start to show
It makes the hatred wanna grow outta my veins”
.
เมื่อซาจาบอยได้รับความนิยมมาขึ้นในขณะเดียวกัน ช่องโหว่ของฮอนมุนก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกันทำให้ฮันทริกซ์ต้องรีบกำจัดปีศาจบอยแบนด์นี้ให้ได้ ด้วยการแต่งเพลง Take down นี้ขึ้นมาเพื่อสร้างฮอนมุนสีทองและเปิดโปงความชั่วร้ายของปีศาจบอยแบนด์ เนื้อหาของเพลงนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างรุนแรงของฮันเตอร์ที่มีต่อปีศาจ แต่เมื่อรูมิได้พูดคุยกับ ‘จินอู’ สมาชิกซาจาบอยทำให้เธอเริ่มคิดได้ว่าปีศาจอาจจะไม่ได้ร้ายทุกตัวโดยเฉพาะจินอูที่เขาต้องทนทุกข์ทรมานจากเสียงของกวีมาที่สั่งให้เขาต้องทำเรื่องที่ชั่วร้าย การกำจัดปีศาจทุกตัวไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง รูมิจึงเปลี่ยนท่อนนึงของเพลง ‘when your pattern start to show, I see pain that lies below’ เมื่ออักขระบนตัวเธอเริ่มปรากฏ ฉันมองเห็นความเจ็บของเธอข้างใน

Track 4 - Free
.
“Why does it feel right every time I let you in?
Why does it feel like I can tell you anything?”
.
การที่รูมิเกิดมาแตกต่างจากคนอื่นและมีกอักขระที่ไม่ถูกยอมรับแม้กระทั่งกับคนที่เธอรัก แต่การที่ได้พบกับจินอูที่ก็มีรอยอักขระเช่นเดียวกับเธอ จินอูจึงเป็นคนแรกที่ยอมรับในตัวเธออย่างแท้จริง รูมิสามารถพูดคุยอย่างเปิดเผยและเป็นตัวเองได้อย่างแท้จริงเมื่ออยู่กับจินอู เธอได้รับอิสระทางความคิดการแสดงออกโดยไม่ต้องปิดบัง เพราะทั้งสองต่างก็มีข้อบกพร่องทั้งสองจึงเข้าใจกันและกันเป็นอย่างดี

Track 5 - What It Sounds Like
.
“My voice without the lines, this is what it sounds like”
.
เมื่อมาถึงจุดที่ทุกอย่างที่รูมิสร้างมาได้พังทลายลง ฮอนมุนเกิดช่องโหว่มากขึ้นเรื่อย ๆ รอยอักขระบนตัวของเธอถูกเปิดเผยรูมิสูญเสียความเชื่อในจากเพื่อนรักของเธอ ถูกจินอูหักหลังหนำซ้ำเซลีนที่เป็นเหมือนตัวแทนของครอบครัวยังไม่ยอมรับในตัวตนของเธอ สุดท้ายรูมิได้รู้การที่เธอคอยปิดบังและกดมันไว้มันเหมือนเป็นการทำร้ายตัวเอง เธอโหยหาการถูกยอมรับจากคนอื่นแต่แม้กระทั่งตัวเธอเองกลับไม่ยอมรับในตัวเอง ถึงแม้การมีอักขระจะเป็นจุดอ่อนของตัวเองแต่มันก็คือส่วนหนึ่งของตัวเอง รูมิจึงยอมรับว่าถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นแก้วที่แตกสลายแต่เศษแก้วที่แตกสลายนั้นเมื่อกระทบกับแสงก็เกิดประกายแสงที่สวยงาม รูมิจึงทำลายฮอนมุนสีทองที่ฮันเตอร์รุ่นก่อนได้พยายามสร้างมาและสร้างใหม่ในแบบองเธอเองจึงเกิดเป็นฮอนมุนสีรุ้งที่สื่อถึงความหลากหลายทางอัตลักษณ์ และยุคสมัยใหม่ของฮันเตอร์รุ่นใหม่อย่างพวกเธออีกด้วย
.
เราจะเห็นว่าในท้ายที่สุดลายอักขระยังคงอยู่บนตัวของรูมิแต่เธอไม่ได้ปิดบังมันอีกต่อไป รูมิได้รับการยอมรับจากทั้งตัวเธอเองและคนรอบข้าง ถึงแม่จะไม่สมบูรณ์แบบแต่รูมิก็ได้เรียนรู้การยอมรับว่าตัวเองก็มีจุดบกพร่องแต่ก็โอบรับมันไว้และเป็นตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบและเปล่งประกายงดงาม
.
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวที่เรานำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อนๆ ที่ได้ดูแอนิเมชันเรื่องนี้กันแล้ว มีเพลงไหนเป็นเพลงโปรดกันบ้าง มาแลกเปลี่ยนกันได้ที่ใต้คอมเมนต์เลยน้าาา~
เรื่อง : Tareerat.chal (Intern)
.














ความคิดเห็น