top of page

แฟนละครตั้งคำถาม หากแคสต์ใหม่ Maybe Happy Ending จะไม่ใช่คนเอเชีย?

ree

เคยได้ยินใช่มั้ยครับที่บางทีข่าวน่าตื่นเต้นเรื่องหนึ่งกลับตาลปัตรกลายเป็น talk of the town ที่สร้างความรู้สึกหลากหลายและเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง.. นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมากับบรอดเวย์มิวสิคัลเรื่องฮิตอย่าง Maybe Happy Ending เมื่อละครได้ประกาศออกมาว่า Andrew Barth Feldman นักแสดงดาวรุ่งซึ่งเคยมีผลงานหนัง No Hard Feelings (2023) ประกบ Jennifer Lawrence นั้น กำลังจะมาแสดงในบทนำชายของเรื่องเดือนกันยายนนี้ อันนำมาซึ่งการตั้งคำถามจากแฟนละครเกี่ยวกับเชื้อชาติของนักแสดง The Showhopper เลยขอมาสรุปข่าวนี้ให้อ่านกัน..

.

👩‍❤️‍👨 เรื่องราวของละครและการสะท้อนความเป็นเอเชีย

.

Maybe Happy Ending เป็นผลงานที่สำรวจแก่นแท้ของความทรงจำและความรัก ผ่านความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ที่เกิดขึ้นในกรุงโซลยุคอนาคต โดยเริ่มเปิดแสดงที่เกาหลี ญี่ปุ่น และจีนมาก่อน แล้วจึงพัฒนาต่อยอดเพื่อนำมาแสดงที่บรอดเวย์ ดังนั้นละครจึงมีกลิ่นอายความเป็นเอเชียสอดแทรกอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด ฉากหลัง ดนตรี ไปจนถึงทีมงานสร้างสรรค์อีกหลายชีวิต

.

ด้วยส่วนผสมหลาย ๆ อย่างที่ลงตัวผนวกกับกระแสปากต่อปาก ทำให้มิวสิคัลสัญชาติเกาหลีที่เริ่มต้นด้วยอาการลุ่ม ๆ ดอน ๆ บนบรอดเวย์เรื่องนี้ กลายเป็นม้าตีนปลายที่ค่อย ๆ วิ่งแซงขึ้นมาเป็นขวัญใจทั้งผู้ชมและคนในวงการตลอดซีซันที่ผ่านมา พร้อมกับยอดขายตั๋วที่พุ่งสูงขึ้นจนแตะระดับ sold out ในที่สุด กระทั่งไปได้ไกลถึงขั้นที่ได้คำนำหน้าโชว์ว่า ‘เจ้าของ 6 รางวัลโทนี รวมสาขาละครเพลงยอดเยี่ยม’

.

เหนือสิ่งอื่นใด ละครได้กลายเป็นความภาคภูมิใจของผู้คนเชื้อสายเอเชียมากมายที่มองว่า Maybe Happy Ending คือประตูสู่โอกาสครั้งสำคัญที่วัฒนธรรม ความเชื่อ วิถีความนึกคิดแบบตะวันออก จะได้ถูกบอกเล่าในสเปซที่เป็นสากลอีกครั้ง โดยเฉพาะครั้งนี้ที่ละครก้าวถึงจุดสูงสุดของแวดวงละครเวทีระดับโลก ซึ่งทำให้ Maybe Happy Ending ได้เป็นพื้นที่สำหรับการยอมรับอย่างแท้จริงสำหรับนักแสดงเอเชีย

.

🙋 แล้วมันเกิดอะไรขึ้น?

.

เกิดกระแสตีกลับเมื่อมีการประกาศว่า ในช่วงที่ Darren Criss จะหยุดพักการแสดงหลังวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ผู้ที่จะมารับช่วงต่อเป็นเวลา 9 สัปดาห์ในบท “Oliver” หุ่นยนต์ที่หวังใจว่าสักวันจะได้พบกับเจ้าของคนเก่าอีกครั้ง จะเป็นนักแสดงผิวขาวอย่าง Andrew Barth Feldman

.

ประเด็นดังกล่าวได้สร้างความกังวลในหมู่นักแสดงเอเชียนอเมริกัน และจุดชนวนให้เกิดการถกเถียงอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับ Asian Representation โดยหลายเสียงบอกว่า ‘ผิดหวังกับการตัดสินใจนี้’ เพราะมันเหมือนการถอยหลังลงคลองที่ทำให้คอมมูนิตี้ของคนเอเชียถูกมองข้ามอีกครั้ง

.

Darren Criss เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-ฟิลิปปินส์ ดังนั้นในวันที่ชนะโทนีจากบทนี้ เขาจึงถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ว่าเป็นนักแสดงเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ชนะรางวัลโทนีในสาขานำชายมิวสิคัล ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากตัวเขาแล้วยังมีนักแสดงเอเชียนอเมริกันอีกถึง 6 คนที่เข้าชิงโทนีในปีนี้ด้วย โดยสองคนในจำนวนนี้คว้ารางวัลกลับบ้านได้เช่นกัน นั่นคือ Nicole Scherzinger (ฟิลิปปินส์) และ Francis Jue (จีน)

.

ข้อถกเถียงมากมายจึงเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากความสำเร็จที่โดดเด่นของชาวเอเชียบนบรอดเวย์ในช่วงที่ผ่านมา โดยผู้คนที่รู้สึกต่อต้านจะมีความเห็นส่วนใหญ่ในทิศทางประมาณว่า ตัวละคร “Oliver” ควรแสดงโดยนักแสดงเชื้อสายเอเชีย (เหมือนกับทุกคนที่เคยรับบทนี้ตั้งแต่ช่วง Pre-Broadway) เพื่อรักษาความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างเรื่องราว ตัวละคร คนดู และชัยชนะของชุมชนคนเอเชียเอาไว้

.

ในขณะที่ความเห็นอีกส่วนหนึ่งก็รู้สึกยินดีที่จะได้เห็นนักแสดงมากพรสวรรค์อย่าง Andrew Barth Feldman กลับมาแสดงบรอดเวย์อีกครั้ง รวมทั้งตื่นเต้นที่เขาและ Helen J. Shen ซึ่งรับบท “Claire” ตัวละครนำหญิงของเรื่อง อีกทั้งเป็นคู่รักกันในชีวิตจริง จะมาแสดงเป็นคู่รักบนเวทีเดียวกัน ซึ่งคงเป็นความน่าสนใจที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินได้ลึกซึ้งกว่าเดิม นอกจากนี้บางความเห็นก็บอกว่าเข้าใจในวิสัยทัศน์ของผู้สร้างที่ออกแบบบทบาทมาให้มีความเป็นสากลด้วย

.

🪴 ทีม Maybe Happy Ending ว่าอย่างไรบ้าง?

.

ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สองผู้สร้างละคร Will Aronson และ Hue Park ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านทาง ig ของละคร โดยไม่ได้ตอบโต้คำวิจารณ์ด้วยความก้าวร้าว แต่เลือกที่จะอธิบายกระบวนการคิดของพวกเขาอย่างใจเย็น

.

หลักใหญ่ใจความก็คือ พวกเขาชี้แจงว่ามิวสิคัลเรื่องนี้ถูกสร้างมาให้ "เล่นโดยใครก็ได้ ในที่ใดก็ได้" เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นสากลของเนื้อหาแม้ว่าเรื่องราวจะเซตอยู่ในประเทศเกาหลีก็ตาม

.

หนึ่งในสารสำคัญจากแถลงการณ์นี้คือ

.

“เราเขียนละครเกี่ยวกับหุ่นยนต์เพื่อให้สามารถเข้าถึงคำถามพื้นฐานที่สุดของมนุษย์เกี่ยวกับความรักและความสูญเสียได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยสร้างบทบาทของ ‘Oliver’ และ ‘Claire’ ให้เป็นตัวแทนของคำถามสากลเหล่านี้ พวกเขาถูกสร้างมาให้เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทระดับโลก ดังนั้นจึงไม่เคยมีชื่อเกาหลีเลยแม้แต่ในละครเวอร์ชันเกาหลีเองก็ตาม”

.

“ขณะเดียวกันเราก็เข้าใจดีว่า สำหรับหลาย ๆ คนในชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียแปซิฟิกแล้ว องค์ประกอบของทีมนักแสดงในคืนเปิดตัวของเราได้กลายเป็นสิ่งที่เปี่ยมความหมายและเป็นปรากฏการณ์ที่หาดูได้ยาก เราได้รับฟังมาว่าผู้คนรู้สึกผูกพันกับการ represent นี้มากแค่ไหนแม้ว่านี่จะไม่ใช่ความตั้งใจดั้งเดิมของเราก็ตาม และเราก็รับรู้ว่าการแคสติ้งครั้งนี้ได้รื้อฟื้นบาดแผลเก่าขึ้นมาอีกครั้งอย่างไร”

.

ทางด้าน Helen J. Shen ซึ่งมีเชื้อสายจีน ก็มีการแสดงความเห็นผ่าน ig ส่วนตัว โดยเธอได้แสดงความรู้สึกที่หลากหลายต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

.

“ฉันยอมรับว่าเราไม่สามารถควบคุมได้ว่าโชว์จะถูกรับรู้และส่งผลกระทบอย่างไร การที่เรื่องราวของชาวเอเชียแปซิฟิกที่ไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเจ็บปวดหรือภาพจำแบบเดิม ๆ นั้นมีอยู่น้อยมาก ทำให้ชุมชนของเราอยากให้การแสดงของเราเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนั้น”

.

“ฉันยังคงภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีรูปลักษณ์เช่นนี้และได้ร่วมเป็นนักแสดงนำในบรอดเวย์โชว์เรื่องนี้ ฉันเข้าใจถึงความเจ็บปวดที่ผู้คนรู้สึก เพราะตอนที่เติบโตมา ฉันคงได้เจอแสงแห่งความหวังหากได้เห็นการแสดงแบบนี้ทางโทรทัศน์ในงานโทนีอวอร์ดส์ ส่วนหนึ่งของฉันกำลังเศร้าโศกไปกับชุมชนเช่นกัน”

.

“พูดได้เลยว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างยิ่งในบ้านของฉันกับ Andrew รวมถึงโรงละครหลังนี้ที่เต็มไปด้วยชาวเอเชียแปซิฟิก ฉันไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่การได้มีโอกาสแสดงร่วมกับนักแสดงคนโปรดที่สุดในโลกของฉันเป็นเวลา 9 สัปดาห์ ซึ่งบังเอิญว่าเหมาะสมกับบทนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างยิ่งสำหรับฉัน”

.

🤷 เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนในวงการ

.

BD Wong นักแสดงเชื้อสายจีนเจ้าของรางวัลโทนีได้เขียนจดหมายเปิดผนึกแสดงความผิดหวังอย่างชัดเจน โดยเขาได้ร่ายยาวถึงประเด็นอันร้อนแรงนี้ และขอให้ผู้ติดตามและเพื่อน ๆ ลงชื่อสนับสนุน ซึ่งมีคนสนับสนุนไปมากกว่า 2,400 คน

.

Wong ยังกล่าวถึงช่วงเวลาหนึ่งในปี 1990 ที่เขาและนักเขียนบทละคร David Henry Hwang เป็นสองคนในกลุ่มคนเอเชียนอเมริกันอีกมากมายที่ออกมา call out เรื่องที่นักแสดงผิวขาวชาวอังกฤษอย่าง Jonathan Pryce ถูกเลือกให้มารับบท “Engineer” ตัวละครเชื้อสายเวียดนามใน Miss Saigon

.

เขากล่าวว่าสถานการณ์ปัจจุบันทำให้เขารู้สึก "ราวกับว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ราวกับว่าไม่มีใครเรียนรู้อะไรเลยจากการเหยียดเชื้อชาติและการกีดกันเมื่อ 35 ปีก่อน" พร้อมทั้งเสริมว่า “นี่คือการ representation ที่หาได้ยากยิ่ง และในช่วงเวลาที่ท้าทาย สิ่งนี้สมควรที่จะคงอยู่”

.

ขณะเดียวกัน Asian American Performers Action Coalition (AAPAC) ก็ออกมาแสดงความกังวลผ่านแถลงการณ์ โดยชี้ให้เห็นว่าการ ‘ฟอกขาว’ นี้จะสั่นคลอนรากฐานความก้าวหน้าในการเปิดรับความหลากหลายที่เกิดขึ้นบนบรอดเวย์ และวิงวอนให้ทีมผู้ผลิตและผู้สร้างสรรค์ Maybe Happy Ending พิจารณาผลเสียอันร้ายแรงจากการตัดสินใจนี้ ไม่ว่าเจตนาจะเป็นอย่างไรก็ตาม

.

สำหรับตัว Andrew Barth Feldman เองยังไม่มีการออกมาพูดถึงสถานการณ์นี้ครับ และหลังจากระยะเวลาแสดงของเขาสิ้นสุดลง Darren Criss จะกลับมาแสดงต่ออีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน

.

ไม่ว่าบทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร Maybe Happy Ending ก็กลายเป็นบทเรียนสำคัญที่ตอกย้ำให้เห็นว่า ในโลกที่การเป็นตัวแทนทางเชื้อชาติมีความสำคัญกว่าที่เคย การคัดเลือกนักแสดงจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการแสดงเท่านั้น แต่ยังมีความหมายที่ลึกซึ้ง ผูกพันกับความรู้สึก ความหวัง และชัยชนะของคอมมูนิตี้อย่างแยกจากกันไม่ได้ด้วย.. แล้วผู้อ่าน The Showhopper คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง?

.

เรื่อง: Gaslight Café

.


ความคิดเห็น


©2023 by The Showhopper

bottom of page