ย้อนรอยวรรณกรรมจีนระดับตำนาน ก่อนชมการแสดงสดรูปแบบโชว์บัลเลต์ครั้งแรกกับ “ความฝันในหอแดง : A Dream of The Red Mansion”
- The Showhopper Team
- 5 ส.ค.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 6 ส.ค.

หากพูดถึงสุดยอดวรรณกรรมจีนที่หนอนหนังสือชาวไทยต้องเคยอ่าน ผ่านตา ได้เรียนเรื่องราว การตีความ หรือรับชมในรูปแบบอื่นๆ มาช้านาน คงจะหนีไม่พ้น ‘สามก๊ก’ ‘ไซอิ๋ว’ และ ‘ซ้องกั๋ง’ ที่ยังคงถูกจดจำทั้งในแง่ตัวละครที่สะดุดตา หรือแนวคิด คำคมต่างๆ ที่แฝงการสะท้อนสภาพสังคม การเมือง คำสอนทางศาสนาอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ก็ยังมีวรรณกรรมอีกเรื่องหนึ่งที่โดดเด่นสะดุดตา แม้โทนภายนอกอาจจะดูไม่จริงจังขึงขังเท่าสามเรื่องที่กล่าวมาแต่ก็ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมของจีนตลอดกาลมาเคียงข้างกัน นั่นก็คือ “ความฝันในหอแดง (หงโหลวเมิ่ง)” หรืออีกชื่อคือ “ความรักในหอแดง” ประพันธ์โดย เฉาเสวี่ยฉิน ในช่วงปี ค.ศ. 1744 - 1755 รัชสมัยจักรพรรดิ์เฉียนหลง ราชวงศ์ชิน
.
วันนี้ The Showhopper เลยอยากพาทุกคนย้อนเวลาไปทำความรู้จักกับวรรณกรรมเรื่องนี้กันอีกสักครั้ง ก่อนไปรับชมการแสดงบัลเลต์ “ความฝันในหอแดง - A Dream of The Red Mansion” กันที่มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 27 ในวันที่ 20 กันยายนนี้!! (แอบกระซิบว่าเรามีโปรโมชันดีๆ มาบอกต่อผู้อ่านกันที่ท้ายบทความด้วย)
.
(เช็ครอบการแสดงและสำรองที่นั่ง ทาง https://bit.ly/4ejRlTR )
.
•วรรณกรรมสัจนิยมเสียดสีระบบศักดินา ในคราบของเรื่องรักวัยรุ่น•
.
หากสรุปให้สั้นและฉาบฉวยที่สุด งานเขียนชิ้นนี้เล่าเรื่องราวของหนุ่มสาวชนชั้นสูง 3 คน คือ ‘หลินไต้อี้’ ‘เจี่ยเป่าอี้’ และ ‘เซี่ยเป่าไช่’ ที่โชคชะตาพาให้มาเจอกัน ณ จวนหรงกั๋ว ที่ต่อมา ไต้อี้และเป่าอี้ เกิดชอบพอคบหากัน แต่ในขณะเดียวกับ เป่าไช่ก็มีความรู้สึกพิเศษให้ไต้อี้เช่นกัน และอีกด้าน หนึ่งในสาวใช้ชื่อ ซิเหริน ก็แอบมีความสัมพันธ์กับเป่าอี้.. ทางฟากแม่ของเป่าอี้ เมื่อรู้ว่าไต้อี้เป็นผู้หญิงที่แบกโรคภัยไว้กับตัวและมีร่างกายอ่อนแอ จึงไม่อยากให้ครองคู่กับลูกชายตนจึงจัดงานแต่งสลับคู่ให้นางมาแต่งกับเป่าไช่ จนจบลงที่โศกนาฏกรรมของจวนหนิงกั๋ว และหรงกั๋ว ..แต่วรรณกรรมชิ้นนี้ไม่ได้ถูกยกให้เป็นตำนานจากองค์ประกอบเพียงเท่านี้
.
ภายใต้เรื่องราวดราม่ารักหลายเศร้าของ “ความฝันในหอแดง” แท้จริงแล้วเกิดจากสภาพสังคมในยุคนั้นมีการจัดให้วรรณกรรมที่มีเนื้อหาเสียดสีระบบการเมืองการปกครองกลายเป็น ‘หนังสือต้องห้าม’ และราชสำนักก็จะใช้ ’คุกอักษร’ จัดการกับผู้ประพันธ์ด้วย เฉาเสวี่ยฉิน จึงสร้างงานชิ้นนี้ห่อหุ้มความเป็นวรรณกรรม Realism ที่จิกกัดระบบศักดินาเอาไว้ ฉาบเคลือบด้วยเรื่องราวความรักของหนุ่มสาว แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงการใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ การโกงกิน การใช้อำนาจในทางมิชอบ และเรื่องราวผิดศีลธรรมมากมายในรั้วตำหนักที่สวยงามที่สามารถเทียบเคียงได้กับสถานการณ์จริงในราชวงศ์ยุคนั้นจากการค้นคว้าและวิเคราะห์ของผู้อ่านทั่วโลก ที่เจาะลึกตีความกันแทบทุกถ้อยคำ ทุกวรรคตอน แต่พอแต่งไปได้ 80 ตอน เฉาเสวี่ยฉินก็ถึงแก่กรรม ต่อมานักประพันธ์นามว่า ‘เกาเอ้อ’ ก็มารับหน้าที่แต่งตอนอีก 40 ตอน จนทำให้เกิดเป็นการรวมเล่ม “ความฝันในหอแดง ฉบับสมบูรณ์” และโด่งดังมาจนถึงปัจจุบัน
.
•การตีความและนำเสนอผ่านศาสตร์การเต้นตะวันตก โดยคณะ National Ballet of China•
.
หลังจากถูกดัดแปลงมาหลายรูปแบบทั้งภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ ละครเวที และงิ้ว การนำมาดัดแปลงเป็นโชว์บัลเลต์ครั้งนี้ เปรียบเสมือนการหลอมรวมอัตลักษณ์ของศิลปวัฒนธรรมจากตะวันออกและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน โดยการใช้ความอ่อนช้อยและทรงพลังของบัลเลต์มานำเสนอถ้อยคำและความรู้สึกอบอวลด้วยรักที่บรรจุแน่นในวรรณกรรมจีนโบราณชิ้นนี้ ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าความเป็นบัลเลต์แบบรัสเซียที่เป็นต้นตำหรับของศาสตร์การเต้นนี้กับบัลเลต์แบบจีนมีความต่างกันอย่างไร?
.
แม้จะเป็นการศึกษาศาสตร์เดียวกันแต่บัลเลต์ในแต่ละประเทศก็แฝงไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเองที่มีความเชื่อมโยงกับปรัชญาและวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ โดยบัลเลต์แบบจีนจะโดดเด่นเรื่องการเคลื่อนไหวที่ดูพริ้วไหวเป็นเส้นกลมมน เน้นนำเสนออารมณ์ความรู้สึกและจิตวิญญาณของเนื้อเรื่องผ่านผู้แสดง แตกต่างจากบัลเลต์แบบยุโรปที่เน้นความมูฟเมนต์เฉียบคมเป็นเส้นตรง แสดงความแข็งแรง สง่างามแต่ทรงพลัง
.
นอกจากศิลปะการเต้นที่งดงามที่ทุกคนจะได้ชมแล้ว ผู้เขียนยังอย่างให้ทุกคนไปดื่มด่ำความละเมียดของ ‘คอสตูม’ ในโชว์นี้ด้วย เพราะทีมสร้างเลือกใช้เครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมของจีนที่ถูกดีไซน์ใหม่อย่างละเมียด โดย ‘Yang Donglin’ นักออกแบบเครื่องแต่งกายคนสำคัญของ China National Opera and Dance Drama Theatre ที่ฝากผลงานการสร้างคอสตูมมาไว้ทั้งบนเวที จอแก้วและจอเงิน ที่เข้ามาร่วมสร้างสรรค์เสื้อผ้าสุดวิจิตรให้กับนักแสดงกว่า 80 ชีวิต โดยครั้งนี้นเข้าอยากนำความเป็นจีนแบบคลาสิกมานำเสนอให้ร่วมสมัยมากขึ้นแต่ก็ยังต้องดำรงไว้ซึ่งความงามของดีไซน์แบบจีนโบราณ ไม่ว่าจะเป็นภาพพิมพ์สีหมึก และการใส่การตีความวรรณกรรมเข้าไปในการเลือกสีและการตัดเย็บทั้งหมด เพราะคุณหยางเชื่อว่าความงามนั้นต้องเปี่ยมไปด้วยความหมายอันลึกซึ้ง
.
นอกจากนี้คณะบัลเลต์ชั้นนำของเอเชียอย่าง National Ballet of China พานักเต้นระดับท็อปของประเทศมารับบทนำ ถ่ายทอดเรื่องราวทรงคุณค่านี้ให้คนไทยได้เพลิดเพลินกัน อาทิ ‘Qui Yunting’ ‘Xu Yan’ ‘Li Wentao’ ‘Fang Menying’ และ ‘Chen Zhuming’ อีกทั้งยังขนเอาฉากสุดยิ่งใหญ่จากปักกิ้งมาเต็ม 6 ตู้คอนเทนเนอร์เสิร์ฟความตระการตาให้คนไทยได้ดูแบบจัดเต็ม เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการฑูต ไทย - จีน บอกเลยว่าถ้าใครอยากลองเริ่มต้นดูบัลเลต์หรือชื่นชอบวรรณกรรมเรื่องนี้อยู่แล้ว เราขอจูงมือผู้อ่านทุกท่านเข้าโรงละครไปด้วยกันในเดือนกันยายนนี้!!
.
”ความฝันในหอแดง - A Dream of Red Mansion”
.
รอบการแสดง
วันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2025
เวลา 14.30 น. และ 19.00 น.
ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
.
สำรองที่นั่งและอ่ายรายละเอียดการแสดงทั้งหมดทาง Thaiticketmajor หรือคลิก https://bit.ly/4ejRlTR
.
พิเศษ!! รับส่วนลด 12% เพียงส่งหมายเลขคำสั่งซื้อ หรือภาพบัตรชมการแสดงปีนี้มาที่ LINE OA @bangkokfestivals เพื่อรับโค้ดส่วนลด (เฉพาะการสั่งซื้อระหว่างวันที่ 7–10 สิงหาคมนี้เท่านั้น)
.
#TheShowhopper #BehindTheScenes #BangkokFestivals #BKKFEST #มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพ #วรรณกรรมจีน #ความฝันในหอแดง #บัลเลต์
ความคิดเห็น